วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สมเกียรติ  ภู่ระหงษ์.อาเซียนศึกษา.พิมพ์ครั้งที่ ๕.กรุงเทพฯ:อักษรเจริญทัศน์ อจท,๒๕๕๘.
เรื่อง : การเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
สาระสำคัญ :

การเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
        เพื่อให้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนประสบความสำเร็จ เยาวชนไทยทุกคนต้องตื่นตัวและเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ดังนี้
๑.การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
  • ฝึกอ่านศึกษาภาษาอังกฤษหรือข้อความโฆษณาที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน
  • ฝึกฟังหรือสนทนาภาษาอังกฤษจากวิทยุ โทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ
  • หมั่นท่องศัพท์ เพื่อจะได้มีศัพท์ไว้ใช้สื่อสารมากขึ้น
๒.การปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม และระเบรยบวินัย
  • มีการศึกษาที่ดี
  • มีระเบียบวินัย
  • เคารพกฎหมาย
  • ขยัน หมั่นเพียร
  • ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง
  • มีความอดทน
๓.การเรียนรู้ภาษาเพื่อนบ้าน
  • เป็นการส่งเสริมแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
  • ช่วยสร้างโอกาสในการทำงานมากขึ้น
  • สามารถนำความรู้ที่มีประโยชน์ของเพื่อนบ้านมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การทำอาหาร
๔.การเรียนรู้วัฒนธรรมและสร้างทัศนคติที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน
  • เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และภูมิหลังของประเทศสมาชิกอาเซียน
  • ทำความเข้าใจกับวิถีชีวิตแนวคิดของเพื่อนสมาชิกอาเซียน
  • ทำความเข้าใจอัตลักษณ์หรือลักษณะเฉพาะของประเทศสมาชิกอาเซียน
๕.การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
  •  เรียนรู้เกี่ยวกับมารยาททั่วไปในการใช้อินเทอร์เน็ต
  • ทำตามหลักพื้นฐานความปลอดภัยและเรียนรู้วิธีการ
  • ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ โดยการสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนและข่าวในด้านต่างๆ
  • เรียนรู้วิธีการออกแบบ สร้างสรรค์ และนำเสนองาน เพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยน
  • การจัดทำบล็อกหรือใช้สื่อออนไลน์เพื่อคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนประเทศสมาชิกในทาเหมาะสม



วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

 วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สมเกียรติ  ภู่ระหงษ์.อาเซียนศึกษา.พิมพ์ครั้งที่ ๕.กรุงเทพฯ:อักษรเจริญทัศน์ อจท,๒๕๕๘.
เรื่อง : สามเสาหลักประชาคมอาเซียน
สาระสำคัญ :

เสาที่ ๑ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
          มีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ประเทศในภูมิภาคอยู่อย่างสันติสุข แก้ไขปัญหาภายในภูมิภาคโดยสันติวิธี และยึดมั่นในหลักความมั่นคงรอบด้าน โดยจะดำเนินการดังนี้
๑.ใช้เอกสารทางการเมืองและกลไกของอาเซียนที่มีอยู่แล้วในการเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทภายในภูมิภาค รวมถึงการต่อต้านการก่อการร้าย การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ
๒.ริเริ่มกลไกใหม่ๆ ในการเสริมสร้างความมั่นคงและกำหนดรูปแบบใหม่สำหรับความร่วมมือในด้านนี้
๓.ส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล โดยไม่กระทบต่อนโยบายต่างประเทศ
เสาที่ ๒ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
           มีเป้าหมายที่จะทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความมั่นคงมั่นคั่ง และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะดำเนินการดังนี้
๑.ทำให้การไหลเวียนของสินค้า การบริการ การลงทุน เงินทุน แรงงานมีฝีมือ ดารพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเสรี
๒.ทำให้อาเซียนเป็นตลาดเดียวและเป็นฐานการผลิตเดียวกัน
๓.ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน เพื่อช่วยลดช่องว่างระดับการพัฒนา และเข้มแข็ง
๔.ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหาภาค
เสาที่ ๓ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
          มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสังคมที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร ประชากรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับการพัฒนาในทุกด้าน และมีความมั่นคงทางสังคม โดยจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น
๑.การพัฒนาสังคม โดยการยกระดับความเป็นอยู๋ของผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาร
๒.การพัฒนาการฝึกอบรม การศึกษาระดับพื้นฐานและสูงกว่า การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสร้างงาน และการคุ้มครองทางสังคม
๓.การส่งเสริมความร่วมมือในด้านสาธารณสุข
๔.การจัดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
๕.การส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเขียน นักคิด และศิลปินในภูมิภาค

วัน จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์  พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :ธนากร เพิ่มพูนทรัพย์.สู่โลกก้าวไกล ๑๐ ประเทศสมาชิคอาเซียน.กรุงเทพ P.Q ,พริ้นติ้ง.เอกรุ๊ป.
เรื่อง : บรูไน
บรูไน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ทิศตะวันออกตะวันตกและทิศใต้ ติดเขตซาราวัก ประเทศมาเลเซีย โดยพื้นที่ร้อยละ 70 เป็นป่าไม้ บรูไนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก (ปริมาณการผลิตน้ำมนประมาณ 180,000 บาร์เรล / วัน) บรูไนถือเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรน้อยมาก แต่เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมากแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ให้สวัสดิการอย่างดีเลิศแก่ประชาชน อาทิ ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลฟรี การศึกษา รัฐให้เปล่าจนถึงระดับมัธยมศึกษา นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการแก่ข้าราชการของรัฐอีกด้วย
 วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สุพรรฌทิพย์  อติโพธิ.สรุปชีววิทยา มัธยมปลาย.กรุงเทพฯ:กรีนไลฟ์ พริ้นท์ติ้งเฮ้าท์,๒๕๕๗.
เรื่อง : โครงสร้างของดอก
สาระสำคัญ :

๑.  กลีบเลี้ยง (sepal)  เป็นส่วนที่อยู่นอกสุด  มีสีเขียว เหมือนใบ และทำหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสงได้  กลีบเลี้ยงทำหน้าที่ห่อหุ้ม และป้องกันอันตรายให้แก่ส่วนของดอกที่อยู่ภายใน  เมื่อดอกบานแล้วส่วนของกลีบเลี้ยงอาจหมดหน้าที่แล้วหลุดร่วงไป  วงของกลีบเลี้ยงเรียกว่า  แคลิกซ์  (calyx
๒.  กลีบดอก (petal) เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกลีบเลี้ยงเข้ามากลีบดอกมักมีสีสันต่างๆสวยงามเนื่องจากมีรงควัตถุ ชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีต่อมน้ำหวานตรงโคนกลีบดอกเพื่อทำหน้าที่ล่อแมลงให้มาช่วยผสมเกสร
๓.  เกสรตัวผู้ (stamen) เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกลีบดอกเข้ามาทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้  เกสรตัวผู้แต่ละอันประกอบด้วย ๒ส่วน คือ
  ก้านชูเกสรตัวผู้  (filament)  เป็นส่วนที่มีลักษณะเป็นเส้น อาจรวมกันเป็นกลุ่มหรือแยก อาจยาวหรือสั้นแล้วแต่ชนิดของพืช ทำหน้าที่ชูอัลเกสรตัวผู้หรืออับเรณู
  อับเกสรตัวผู้ (anther) มีลักษณะเป็นแทงกลมยาวหรือค่อนข้างกลม 2  พู  ภายในแบ่งเป็นถุงเล็กๆ   ๔  ถุง เรียกว่า ถุงเรณู(pollen  sac)  บรรจุละอองเรณู (pollen  grain)จำนวนมากมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ  สีเหลืองๆ  ผิวของละอองเรณูแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน  ละอองเรณูทำหน้าที่  เป็นเซลล์สืบพันธุเพศผู้  เมื่อดอกเจริญเต็มที่แล้วถุงละอองเรณูจะแตกออก  ละอองเรณูก็จะปลิวออกมา  เกสรตัวผู้ในพืชแต่ละชนิดมีจำนวนมากน้อยไม่เท่ากัน  ในพืชโบราณหรือพืชชั้นต่ำเกสรตัวผู้มักมีจำนวนมาก  ส่วนพืชที่มีวิวัฒนาการสูงจำนวนเกสรตัวผู้จะลดน้อยลง  
๔.  เกสรตัวเมีย (pistil) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย  ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย แบ่งเป็น ๓ส่วนดังนี้
                                  ยอดเกสรตัวเมีย (stigma) คือ ส่วนปลายสุดของก้านเกสรตัวเมีย มีลักษณะเป็นปุ่ม มีขนหรือของเหลวเหนียวๆสำหรับจับละอองเรณูที่ปลิวออกมาหรือแมลงนำพามา
                                  ก้านชูเกสรตัวเมีย (style) เป็นส่วนที่ต่อจากยอดเกสรตัวเมียลง มีลักาณะเป็นท่อยาวต่อลงมาถึงรังไข่
                                  รังไข่  (ovary)  เป็นส่วนที่พองโตขยายออกเป็นกระพุ้งหรือกระเปาะ โดยภายในรังไข่มีออวุล มากกว่า และภายในออวุลจะมีถุงเอ็มบริโอ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลล์ไข่
 วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สุพรรฌทิพย์  อติโพธิ.สรุปชีววิทยา มัธยมปลาย.กรุงเทพฯ:กรีนไลฟ์ พริ้นท์ติ้งเฮ้าท์,๒๕๕๗.
เรื่อง : ระบบน้ำเหลือง
สาระสำคัญ :

         ระบบน้ำเหลืองเป็นระบบลำเลียงสารต่าง ๆ ให้กลับเข้าสู่เส้นเลือด โดยเฉพาะสารอาหารพวกกรดไขมันที่ดูดซึมจากลำไส้เล็ก ระบบน้ำเหลืองจะไม่มีอวัยวะสำหรับสูบฉีดไปยังส่วนต่าง ๆ
ส่วนประกอบของระบบน้ำเหลือง

ท่อน้ำเหลือง ( Lymph vessel )
      เป็นท่อตันมีอยู่ทั่วร่างกายมีขนาดต่าง ๆ กัน มีลักษณะคล้ายเส้นเลือดเวน คือมีลิ้นกั้นป้องกันการไหลกลับของน้ำเหลือง
น้ำเหลืองไหลไปตามท่อน้ำเหลือง โดยอาศัยปัจจัย ๓ ประการ คือ
๑. การหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อที่จะไปกดหรือคลายท่อน้ำเหลือง
๒. ความแตกต่างระหว่างความดันไฮโดรสเตติก ซึ่งท่อน้ำเหลืองขนาดเล็กมีมากกว่า ท่อน้ำเหลืองขนาดใหญ่
๓. การหายใจเข้า ซึ่งไปมีผลขยายทรวงอกและลดความดันทำให้ท่อน้ำเหลืองขยายตัว
อวัยวะน้ำเหลือง ( Lymph organ ) อวัยวะน้ำเหลืองเป็นศูนย์กลางในการผลิตเซลล์ที่ใช้ในการต่อต้านเชื้อโรคหรือสิ่งแปลก ปลอมประกอบด้วย ต่อมน้ำเหลือง ต่อมทอนซิล ม้าม ต่อมไทมัส และเนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่อยู่ที่ลำไส้
- ต่อมน้ำเหลือง ( Lymph node ) พบอยู่ระหว่างทางเดินของท่อน้ำเหลืองทั่วไปในร่าง กายลักษณะเป็นรูปไข่ กลม หรือรี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ มิลลิเมตร จะมีท่อน้ำเหลืองเข้าและท่อน้ำ เหลืองออกภายในเต็มไปด้วยเม็ดเลือดขาวชนิดโฟไซต์ ต่อมน้ำเหลืองจะทำหน้าที่กรองน้ำเหลืองให้สะอาดทำลาย แบคทีเรีย และทำลายเม็ดเลือดขาวที่อยู่ในวัยชรา
- ต่อมทอนซิล ( Thonsil gland ) เป็นกลุ่มของต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ ๓ คู่คู่ที่สำคัญอยู่ รอบๆหลอดอาหาร ภายในต่อมทอนซิลจะมีลิมโฟไซต์ทำลายจุลินทรีย์ที่ผ่านมาในอากาศไม่ให้เข้าสู่หลอดอาหารและ กล่องเสียงถ้าต่อมทอนซิลติดเชื้อจะมีอาการบวมขึ้น เรียกว่า ต่อมทอนซิลอักเสบ
- ม้าม ( spleen ) เป็นอวัยวะน้ำเหลืองที่ใหญ่ที่สุด มีเส้นเลือดมาเลี้ยงมากมายไม่มีท่อน้ำ เหลืองเลย สามารถยืดหดได้ นุ่มมีสีม่วง อยู่ใกล้ๆกับกระเพาะอาหารใต้กระบังลมด้านซ้าย รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ภายในจะมีลิมโฟไซต์อยู่มากมาย ม้ามมีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดในระยะเอ็มบริโอในคนที่คลอดแล้วม้ามทำหน้าที่
๑. ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุแล้ว
๒. สร้างเม็ดเลือดขาว พวกลิมโฟไซต์ และโมโนไซต์ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคที่เข้า ไปในกระแสเลือด
๓. สร้างแอนติบอดี
๔. ในสภาพผิดปกติ สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้ เช่น มะเร็งเม็ดเลือด


- ต่อมไทมัส ( Thymus gland ) เป็นต่อมที่มีขนาดใหญ่ตอนอายุน้อย และถ้าอายุมากจะเล็ก ลงและฝ่อในที่สุด เป็นต่อมไร้ท่ออยู่ตรงทรวงอกรอบเส้นเลือดใหญ่ของหัวใจ ทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด ลิมโฟไซต์ T มีหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคและสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งการต้านอวัยวะที่ปลูกถ่ายจากผู้อื่นด้วย
 วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.ยาเสพติด หยุดได้ถ้ารู้ทัน.กรุงเทพฯ.เขตพญาไทย.ถนนดินแดน.
เรื่อง : ทำไมเสพแล้วจึงติด(โรคสมองติดยา)
สาระสำคัญ :

      บางคนเชื่อว่า หากดูแลสุขภาพให้ดีและทำจิตใจให้เข้มแข็งแล้วจะไม่ตกเป็นทาสยาเสพติดซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะยาเสพติดออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก เพราะทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการทำงานทั้งร่างกาย ความคิด และจิตใจของผู้เสพสมองที่ถูกยาเสพติดทำลายแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ
   1.สมองชั้นนอกหรือสมองส่วนคิดทำหน้าที่ควบคุมสติปัญญา ใช้ความคิดแบบมีเหตุผล
    2.สมองชั้นในหรือสมองส่วนอยาก เป็นศูนย์ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก
    
       เมื่อเสพยาเสพติด ตัวยาจะกระตุ้นสมองส่วนอยากให้หลั่งสารเคมีชื่อ โดปามีน ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกมีความสุข ส่งผลให้ผู้เสพรู้สึกเป็นสุขมากกว่าปกติ แต่เนื่องจากเป็นการสร้างโดปามีนที่ผิดธรรมชาติ เมื่อเสพเป็นเวลานานสมองจะไม่สามารถควบคุมการหลั่งโดปามีนได้ตามปกติ ทำให้ผู้เสพหมดความสามารถรู้สึกสุขตามธรรมชาติได้ ต้องอาศัยการเสพติดสมองจึงจะหลั่งโดปามีนออกมาเพียงพอให้รู้สึกสุขได้ หากไม่ได้เสพก็จะเกิดอาการหงุดหงิด หรือซึมเศร้า ทำให้ต้องแสวงหายาเสพติดมาเสพซ้ำแล้วซ้ำอีก กลายเป็นภาวะเสพติด หรือเรียกว่า สมองติดยา

     หลังจากเสพยาเสพติด ต่อเนื่องเป็นเวลานาน สมองส่วนคิดจะถูกทำลาย การใช้ความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลจะเสียไป สมองส่วนอยากจะมีอิทธิพลมากกว่าสมองส่วนคิดจนทำอะไรตามใจตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล ผู้เสพยาจึงมักมักทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม มีอารมณ์ก้าวร้าว หงุดหงิด ที่สำคัญ คือห้ามตนเองไม่ได้ต้องทำทุกวิถีทางให้ได้ยาเสพติดมาเสพ สุดท้ายเกิดความสูญเสียในทุกด้านของชีวิต เช่น เพื่อน ครอบครัว การเรียน / การทำงาน รวมทั้งมีอาการทางจิตและเป็นโรคจิตเต็มขั้นในที่สุด
วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.ยาเสพติด  ป้องกันได้ ด้วยคามเข้าใจ จากครอบครัว.กรุงเทพฯ.เขตพญาไทย.ถนนดินแดน.
เรื่อง : วิธีทำให้ครอบครัวมีความสุข
สาระสำคัญ :

๑.มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว

          ตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ทำให้ในครอบครัวเป็นที่พึ่งให้กันและกันได้
 ๒.ให้ความสำคัญกับครอบครัว
          การให้เวลากับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ
               ไม่เอาความเครียดมาให้กับคนนครอบครัว พยายามหาเวลาตรงกันที่ทุกคนมาร่วมกิจกรรมกัน                      ได้
          เอาใจใส่และให้ความรักแก่คนในครอบครัวในทางที่เหมาะสม
                ทำให้ทุกคนตระหนักว่าเรารักกัน มีความหมายต่อกันและกัน
 ๓.สื่อสารพูดคุยกันอย่างดี

  •       รู้จักห้อภัย
  •       ยิ้ม
  •       มีเวลานอก
  •       รับฟัง
  •       ใช้ถ้อยคำดี

 ๔.การสร้างค่านิยมให้เหมาะสม
             ครอบครัวยังเป็นแหล่งที่ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องในการสร้างความสุขและการป้องกันปัญหาการติดยาเสพติดให้แก่สมาชิกในครอบครัวได้ ค่านิยมและวิธีคิดดังกล่าวเช่น
    • การให้คุณค่าของความดีมากกว่าวัตถุสิ่งของ
    • การเคารพผู้ที่อาวุโสกว่าและการเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็ก
    • การปฏิเสธการใช้สารเสพติดทุชนิด
    • การแก้ปัญหาในครอบครัวด้วยเหตุผล





วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก.สุขภาพใจดี.พิมพ์ครั้งที่๒.กรุงเทพฯ:มูลนิธิมายา โคตมี.
เรื่อง : หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เพื่อปฐมพยาบาลจิตใจ
สาระสำคัญ :

        หายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆ เพื่อปฐมพยาบาลจิตใจ
  • ตั้งสติ
  • ยิ้มน้อยๆในใจ
  • หายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆ
  • หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย    
        อดีตเป็นเหตุ-การกระทำหรือประสบการณ์ความเชื่อในอดีต การคิด การพูด และการกระทำในอดีตเป็นเหตุ
ปัจจุบันเป็นผล-สิ่งต่างๆที่เรากำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราได้สร้างเหตุไว้ทั้งนั้น
ทางกาย เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราทั้งฝ่ายที่น่าปรารถนา คือมีลาภ มียศ สรรเสริญ สุข และฝ่ายที่ไม่น่าปรารถนา คือ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นกันเราทุกคน หากเราเข้าใจ ก็สามารถทำใจ ยอมรับความจริงได้
          ทางจิตใจ อารมณ์ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ น้อยใจ ล้วนแล้วแต่เกิดจากความรู้สึกนึกคิดที่เรานึกคิดไปเอง เราต้องรู้ทันอารมณ์ ไม่ควรให้มีอิทธิพลต่อความคิด การพูด และการกระทำ ควรปล่อยวางไม่ยินดียินร้าย ต้องแก้ปัญหาที่จิตใจ ถ้าปฏิบัติได้ก็เรียกว่ารู้เท่าทันอารมณ์ การปฏิบัติของเราคือ มีสติปัญา รู้จักคิด พูดดี ทำดี มีเมตตา กรุณา เป็นสุขภาพใจดี
วัน  จันทร์ ที่ ๒๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :
กิตอำพร ภะโว.ชีวิตงามความพอเพียง.พิมพ์ครั้งที่๑.กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพร้าว.
เรื่อง : วัฒนธรรมไทย
สาระสำคัญ :


สมัยก่อนเมื่อมองวัฒนธรรมไทยแล้ว จะเห็นว่าคนสมัยก่อนเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญมากคือ การสืบสานประเพณีไทย เช่นการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ การไหว้ คำขอบคุณ คำขอโทษ การแบ่งสิ่งของ เขาจะรู้สึดว่าเรามีน้ำใจ คิดดี เป็นมิตรกับเขา สมัยนี้อาจจะไม่ค่อยได้เห็นวัฒนธรรมไทยของเรา ซึ่งเปลียนแปลงไปจาดเมื่อก่อนมาก คนไทยสมัยนี้รับวัฒนธรรมจากชาติอื่นมามาก สิ่งที่ไม่ควรทำเช่น การใส่เสื้อโชว์ส่วนต่างๆ ของร่างกาย การเจาะบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นผู้หญิงไม่ควรเที่ยวกลางคืนเป็นอย่างยิ่ง จะเกิดภัยอันตรายกับตนเอง รวมถึงนิยมวัตถุสิ่งของกันไปตามสมัย เราควรเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมไทยของเราให้มากยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นสิ่งที่ดีในวันข้างหน้า และรักษาวัฒนธรรมไทยของเราไว้ในวันข้างหน้า

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วัน  ศุกร์ ที่ ๑๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา :พิมพ์สุดา  แสนภูวา.ชีวิตงามความพอเพียง.พิมพ์ครั้งที่๑.กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพร้าว.
:เรื่อง : ปัญหาทุกอย่าง ย่อมมีทางแก้ สุดแท้แต่เราจะหาเจอหรือไม่
สาระสำคัญ :

         ความจริงชีวิตเราทุกคน เกิดมาล้วนพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมายไม่เว้นแต่ละวัน คนเรายามประสบปัญหาอุปสรรค มักโทษเคราะห์กรรม เกิดความรู้สึกท้อสิ้นหวัง ความจริงแล้วปัญหาและอุปสรรคมีคุณค่าตรงที่ทำให้ผู้คนพบหนทางในการแก้ปัญหาเข้มแข็งขึ้น เมื่อเจออุปสรรคควรตั้งสติให้ดี ใช้ปัญญาไตร่ตรอง มองหาต้นเหตุที่ทำใ้เกิดปัญหา ทำจิตให้สงบจะทำให้เรามองปัญหาออกเข้าใจปัญหาที่เกิดอย่างกระจ่างแจ้ง เราไม่อาจรู้ได้ว่าปัญหาที่เราหาทางแก้นั้นเป็นทางที่ดีที่สุดหรือไม่เราย่อมรู้ด้วยตนเองว่าทางนี้ดีที่สุดที่เราใช้สติปัญญาคิดอย่างละเอียด
          บางคนไม่ยอมแก้ปัญหาตนเอง มีแต่พึ่งคนอื่นอยู่ร่ำไป ให้เพื่อน ให้ผู้ปกครองช่วย ยามไม่มีบุคคลอื่นใดมาช่วยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาตนเอง ทำให้การเรียน หน้าที่การงานเสียหายได้ จึงไม่เป็นการดีเลยที่รอแต่ให้คนอื่นมาช่วย เหมือนเราไม่มีคุณค่าเพราะไม่มีคนอื่นก็อยู่ไม่ได้
วัน  ศุกร์ ที่ ๑๒ เดือน กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๕๕๙
ที่มา : นายฉัตรรัตน์  ดำรงชีพ.ชีวิตงามความพอเพียง.พิมพ์ครั้งที่๑.กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพร้าว.
:เรื่อง : ทำความดีอย่างไรให้มีความสุข
สาระสำคัญ :
          เราเกิดเป็นมนุษย์นับว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ  ผู้ที่ประเสริฐจะเป็นผู้รู้ผิดชอบชั่วดี  เมื่อเราเกิดมาแล้วก็ควรทำความดี นับว่าเป็นมนุษย์เกิดมาแล้วใช้ชีวิตไม่สูญเปล่า
           เมื่อทำความดีแล้วมีคนเห็นความดีของเรา เขาก็ชมเชยเรา สรรเสริญเรา ให้รางวัลผลตอบแทนเรา ก็นับว่าเขาให้ความสำคัญกับเรา มันคือกำลังใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุข แต่ความสุขอย่างนั้นเป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน ถ้าทำความดีแล้วท้อแท้ หวังแต่ผลตอบแทน สรรเสริญชื่อเสียงมากไป ก็อาจทำให้เป็นทุกข์ เพราะเราไปยึดมั่นถือมั่นกับกิเลส ความอยาก ทำให้เราคิดมาก ไม่สบายใจ หลงตนเอง
          ดารทำความดีใดๆ ก็แล้วแต่ ขอให้ความดีเพื่อคุณธรรม ยึดมั่น ในสิ่งที่เป็นความดีงามให้สมกับที่เกิดมาเป็นสัตว์ประเสิฐ ไม่ใช่ทำความดีเพื่อเห็นแก่ผลตอบแทนใดๆ ทำเพื่ออยากฟังคพสรรเสริญเยินยอ การทำความดีของเราขอให้ยึด "คุณธรรมประจำใจและจิตสำนึก"อย่างนี้ถึงเรียกว่าคนดีจริงถึงได้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆก็ไม่หลงนี่คือการทำความดีที่ทำให้เรามีความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

วัน  จันทร์   ที่  ๑๑  เดือน  มกราคม   พ.ศ.๒๕๕๙
ที่มา : ชมรมบ้านวิทยาศาสตร์.วิทยาศาสตร์น่ารู้.พิมพ์ครั้งที่๒.กรุงเทพ :อักษรเจริญทัศน์,๒๕๔๖.หน้า๕๔-๕๘
เรื่อง : การหักเหของแสงคืออะไร
  สาระสำคัญ :          
 
          การหักเหของแสงเป็นการเปลี่ยนทิศทางของแสงจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง เนื่องจากแสงเดินทางด้วย ความเร็วต่างกัน ผ่านวัตถุต่างๆ เช่น ในอากาศแสงจะเดินทางด้วยความเร็ว ๓ แสน กิโลเมตร/วินาที แต่จัช้าลงเมื่อเดินทางผ่านน้ำ ทำใก้แสงเปลี่ยนทิศทางรีงสีของแสงอาจจะเบนเข้าหรือออกจากแนวเดิม แนวที่ใช้อ้างอิงเรียกว่า เส้นปกติ ซึ่งเป็นแนวเส้นตรงที่ลากผ่านตัวกลางทั้งสอง
 เมื่อแสงเดินทางจากอาศไปยังแก้วก็จะเบนเข้าหาเส้นปกติ เมื่อแสงเดินทางกลับไปสู่อากาศก็จัเบนออกจากเส้นปกติ เมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางที่หนาแน่นน้อยกว่าไปยังตัวกลางที่หนาแน่นมากกว่า แสงก็จะเบนเข้าหาเส้นปกติ
วัน  อาทิตย์  ที่  ๑๐  เดือน  มกราคม    พ.ศ.๒๕๕๙
ที่มา : ชมรมบ้านวิทยาศาสตร์.วิทยาศาสตร์น่ารู้.พิมพ์ครั้งที่๒.กรุงเทพ :อักษรเจริญทัศน์,๒๕๔๖.หน้า๘๒-๘๖
เรื่อง : ออกซิเจนมีประโยชน์อย่างไร
สาระสำคัญ :
 
          ออกซิเจนเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีสถานะเป็นก๊าซ ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ ๒คน ในเวลาต่างกันคือคาร์ล ซีส นักเคมีชาวสวีเดน ในปีค.ศ. ๑๗๗๔ ออกซิเจนเป็นก๊าซที่ไม่มีสี รส และกลิ่น มีอยู่ในบรรยากศ ๒๑% ที่ผิวโลกมักพบธาตุในรูปออกไซด์ของโลหะ การเผาออกซิเจนและก๊าซอะเซมิลีนจะทำให้ได้ประกายไฟที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งใช้ในการเชื่อมและตัดโลหะ ออกซิเจนเหลวงใช้เป็นพลังงานในยานอวกาศ ส่วนถังออกซิเจนใช้สำหรับใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาในการหายใจ และยังใช้ในหมู่นักดำน้ำอีกด้วย ในฤดูหนาว ถ้าเราอยู่ในห้องที่ปิดมิดชิดและใช้ถ่านหินก่อไฟเพื่อให้ความร้อน จะทำให้เราไม่สามารถนอนได้ เพราะถ่านหินที่ไหม้นั้นจะเปลี่ยนออกซิเจนเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งก๊าซทั้งสองชนิดนี้เป็นก๊าซพิษที่อันตรายต่อสุขภาพ

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

วัน ศุกร์ ที่ ๑๙  เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
ที่มา:  สำนักงานป.ป.ส.๒๕๕๘.รวมบทความสำหรับเผยแพร่เพื่อป้องกันยาเสพติด.พิมพ์ครั้งที่๑เรื่อง : การปลูกฝังเด็กให้เป็นคนดี
สาระสำคัญ
       จาการศึกษาเรื่องพัฒนาการของสมองคนยืนยันว่า การที่จะให้เด็กเป็นคนดีผู้ใหญ่ต้องปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้ตั้งแต่เล็กๆ สมองของเด็กจะรับรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ที่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดู หรือครู อบรมสั่งสอนฝังลึกอยู่ในความทรงจำ และจะเป็นเสมือนเข็มทิศนำทางพฤติกรรมเมื่อเติบโตขึ้น
     ครอบครัวยังมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังเรื่องอื่นๆอีก เช่น เรื่องของความดี ความชั่ว เรื่องของการเลือกคบเพื่อนเป็นต้น เพราะครองครัวเป็นสถาบันทางสังคมหน่วยที่เล็กที่สุดและเป็นสถานที่แรกที่เด็กได้เรียนรู้และปฏิบัติจนหล่อหลอมเป็นพฤติกรรมของเด็ก โดยมีพ่อแม่เป็นแบบในทุกๆเรื่อง
วัน จันทร์  ที่ ๒๘  เดือน  ธันวาคม   พ.ศ. ๒๕๕๘
ที่มา : อ้อยและหม่อง  กาญจนะวณิชย์.ซูเปอร์มดถั่วยักษ์และแม่หมี.พิมพ์ครั้งที่ ๑.กรุงเทพฯ : สารคดี,๒๕๔๔. หน้า ๑๕-๑๙.
เรื่อง : บ้านของพืช,ไม้ยืนต้น
สาระสำคัญ :
          พืช เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีที่สุด มันสามารถสร้างอาหารขึ้นมาได้เองจากธาตุง่ายๆ เพียงไม่กี่ตัวที่ละลายอยู่ในก็าซคาร์บอนไดอกไซค์ ปรับปรุงด้วยแสงแดดโดยสารวิเศษสีเขียวคลอโรฟิลล์
พืชต้องงอกรากปักหลักอยู่กับที่เพื่อดูดน้ำ พืชแต่ละพวกจะจับจองพื้นที่และมีวิธีแสวงหาอาหารและแสงแดดแตกต่างกัน ทำให้มันมีลักษณะที่แตกต่างกันไปด้วย เช่น เป็นต้นไม้ พืชเกาะ ไม้เลื้อย พืชคลุมดิน หรือเป็นกาฝาก
          ไม้ยืนต้น เป็นต้นไม้ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในระดับหลังคาป่า จึงต้องคงอยู่ในที่ร่มภายใต้ต้นไม้ใหญ่ สูญพันธุ์ง่ายเมื่อถูกทำลาย แต่ไม่ใช่ว่าต้นไม้จะโตโดยไม่มีขอบเขต เมื่อถึงขนาดหนึ่งมันจะโตช้าลง หรือดูเหมือนว่ามันหยุดโต ทั้งนี้เพราะมันต้องใช้พลังงานในการรักษาขนาดที่ใหญ่โต ใช้ออกดอก ออกผล ขยายพันธุ์แทนการใช้พลังงานสร้างความเจริญเติบโต ในป่าดิบเราจะพบว่าต้นไม้ไม่ออกดอกในระหว่างที่มันแข่งกันโตให้ถึงหลังคาป่าที่มีแสงแดดดแต่เมื่อถึงแล้วจะออกดอก ต้นไม้ที่เราเห็นบ้างเป็นครั้งคราวจึงมีอายุมายาวนานหลายร้อยปี
วัน  จันทร์ ที่ ๔ เดือน มกราคม  พ.ศ.๒๕๕๙
ที่มา  :  วิศนุ  ทรัพย์สุวรรณ.ย้อนทางอย่างไทย.กรุงเทพฯ :ไพลิน,๒๕๔๙.หน้า ๙๒-๑๐๕
เรื่อง  : มโหรี-ปี่พาทย์
สาระสำคัญ  :

         ในสมัยโบราณนั้น  "มโหรี"  เป็นคำเรียกวงดนตรีไทยบรรเลงได้ทั่วไป วงเครื่องสายก็เรียก "มโหรีเครื่องสาย"วงปี่พาทย์ก็เรียก "มโหรีปี่พาทย์"   แต่ปัจจุบันคำว่า  "มโหรี"  ใช้เป็นชื่อเรียกเฉพาะวงดนตรีบรรเลงอย่างหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเครื่องบรรเลงในวงเครื่องสาย และวงปี่พาทย์ผสมกัน
         วงมโหรีปัจจุบัน  ซึ่งเป็นวงดนตรีบรรเลงผสมระหว่างปี่พาทย์และเครื่องสายนั้น แบ่งขนาดวงออกเป็น ๓   ขนาด  คือ วงมโหรีเครื่องเล็ก  วงมโหรีเครื่องคู่ และวงมโหรีเครื่องใหญ่
          เครื่องดนตรีทุกชนิดที่นำมาจากวงปี่พาทย์ เพื่อผสมกับเครื่องสาย  เพื่อเป็นวงมโหรีนี้ ต้องย่อขนาดให้เล็กลง เพื่อให้มีเสียงพอเหมาะ แก่เครื่องบรรเลงในวงเครื่องสายและอาจเพิ่มใหม่อีกอย่างหนึ่งก็ได้
          "ปี่พาทย์"   เป็นวงดนตรีไทยที่ประกอบด้วยเครื่องตีเป็นสำคัญ เช่น ฆ้อง กลอง และมีเครื่องเป่า คือ "ปี่" เป็นประธาน
          เนื่องจากการเล่นมโหรี-ปี่พาทย์นั้น เป็นวัฒนธรรมสืบทอดที่ยาวนานมาจากโบราณ นับย้อนหลังได้เป็นร้อยๆปี และยังสามารถสืบทอดได้มาจนถึงทุกวันนี้ จึงควรที่ชาวไทยทุกคนจะได้ช่วยกันจรรโลงศิลปะวัฒนธรรมของไทยนี้ ให้ยืนยงสืบไป
วัน  อาทิตย์ ที่เดือน มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙
ที่มา  :  วิศนุ  ทรัพย์สุวรรณ.ย้อนทางอย่างไทย.กรุงเทพฯ :ไพลิน,๒๕๔๙.หน้า ๙๒-๑๐๕
เรื่อง  : ประเพรีแห่นางแมว
สาระสำคัญ  :

          การแห่นางแมว  เป็นวิธีการบังคับให้เทวดาบันดาลให้ฝนตกเพื่อจะช่วยมิให้แมวถูกคนทรมาน พิธีการนี้ทำขึ้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่เป็นการเตรียมป้องกันล่วงหน้าเลย  เพราะการแห่นางแมวจะทำเมื่อบังเกิดฝนตกไม่ตกตามฤดูกาลที่ควรจะตก ดังที่เรียกกันทั่วๆไปว่า  "ฝนแล้ง" เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงดูเหมือนว่า  เป็นวิธีการกระทำของชาวบ้านมากกว่าจะเป็นพิธีหลวง  ซึ่งจำเป็นจะต้องมีหมายกำหนดการประจำปีไว้แน่นอน
          การแห่นางแมวนี้ คล้ายๆ กับหมู่คนจำนวนมาก มาร่วมกันประท้วงผู้ใหญ่ เพื่อบังคับให้ท่านยอมอะไรสักอย่างหนึ่ง ตามที่พวกตนต้องการนั่นเองน่าสงสารนางแมวที่ถูกคนจับเอาไปเป็นตัวประกัน และทรมานประชดเทวดา ทั้งๆ ที่มันไม่มีส่วนได้ส่วนเสียสักนิดเดียว วิธีการเห็นจะจัดทำในวันที่ฝนไม่ตกเท่านั้น เพราะว่าฝนตกเสียแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ส่วนจะทำเวลาใดนั้น ไม่มีกติกาพิเศษบังคับแต่ประการใด เช้า สาย บ่ายหรือเย็น  ก็ได้ แต่ไม่ควรทำในเวลาค่ำคืน เพราะไม่สะดวกหลายอย่าง